อาการคันผิวหนังจากโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดีและตับ

จากการศึกษาวิจัยในกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งตับ และโรคเกี่ยวกับตับและถุงน้ำดีที่ไม่ใช่มะเร็ง พบว่ามีอาการคันตามผิวหนังอย่างมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน โดยผู้ป่วยจะมีความรู้สึกคันคล้ายมีเข็มแหลมๆเขี่ย คันคล้ายมดไต่ หรือคันคล้ายกับมีบางอย่างอยู่ใต้ผิวหนัง และจะคันมากขึ้นในเวลากลางคืนหรือผิวแห้ง

สาเหตุของการคันนั้นมาจากพยาธิสภาพของโรค (มะเร็ง นิ่ว หรือเนื้องอก) อุดตันของท่อน้ำดี นำไปสู่การคั่งของน้ำดีในตับแล้วทำให้มีปริมาณกรดน้ำดีในกระแสเลือดสูงขึ้น เชื่อว่าส่งผลทำให้เกิดการคันที่ผิวหนัง การทำหัตถการเพื่อผ่าตัดใส่ท่อเพื่อระบายน้ำดีภายใน การตัดถุงน้ำดี หรือการส่องกล้องขยายท่อน้ำดี เป็นวิธีสามารถแก้ไขปัญหาการคันจากการคั่งของน้ำดีได้ดีที่สุด แต่พบว่าเป็นวิธีที่ผู้ป่วยนิยมทำน้อยที่สุดเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงและผู้ป่วยส่วนมากมีความรุนแรงของโรคค่อนข้างมากซึ่งอาจความเสี่ยงอื่น ๆ ตามมา

ในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ต้องได้รับการรักษาแบบประคับประคอง การบรรเทาอาการคันจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพักผ่อนได้เต็มที่ จากการสำรวจพบว่าผู้ป่วยนิยมบรรเทาอาการคันโดยการซื้อยาแก้คันใช้เอง เช่น คาลามายด์โลชั่น และคอเฟนิรามินชนิดรับประทาน ซึ่งใช้ได้ในอาการคันที่ไม่รุนแรง แต่ใช้ไม่ได้ผลเลยสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีที่มีอาการคันอย่างรุนแรง ผู้ป่วยบางกลุ่มใช้วิธีอาบน้ำบ่อยๆ ซึ่งพบว่าจะสบายตัวในขณะที่อาบน้ำแต่เมื่อผิวแห้งลงจะกลับมีอาการคันเหมือนเดิมหรือมากขึ้นเพราะผิวสูญเสียชั้นไขมันตามธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีก

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่จะรักษาอาการคันจากการคั่งของน้ำดีด้วยยากินหรือยาทา ผู้ป่วยยังจำเป็นต้องหาวิธีการบรรเทาด้วยตนเองโดยผสมผสานหลายๆ วิธีร่วมกัน การใช้ผลิตภัณฑ์ Kayu cream ซึ่งเป็นครีมที่มีฤทธิ์เย็นสามารถช่วยบรรเทาอาการคันได้ทันที และยังมีส่วนผสมคล้ายลิพิดเคลือบผิวตามธรรมขาติที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นโดยไม่เหนอะหนะ ช่วยให้ผู้ป่วยได้ผ่อนคลาย นอนหลับยาวนานและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น